…เวลาที่มีคนบอกว่าการเรียนปริญญาเอกนั้นยากแสนยาก แต่ยากอย่างไร หากไม่เคยผ่านเส้นทางการเรียนปริญญาเอกคงไม่มีวันรู้ได้ วันนี้เพจก็แค่ปริญญาเอก ได้รับโอกาสดีจากอาจารย์ ดร.จิรดา โกสุมบงกช หรือ ดร.จอย ที่ยินดีมาแบ่งปันประสบการณ์การเรียนปริญญาเอกของตนเองในประเทศญี่ปุ่น เพื่อเป็นแรงบันดาลใจสำหรับผู้สนใจออกเดินทางในเส้นทางเดียวกันนี้
สวัสดีค่ะ ดร. แนะนำตัวกับพวกเรานิดนึงนะคะ
สวัสดีค่ะ ชื่อจอย – ดร.จิรดา โกสุมบงกช นักศึกษาและเพื่อนร่วมงานชอบเรียกว่า อาจารย์จอย ค่ะ ปัจจุบันเป็นอาจารย์ประจำสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่นค่ะ (เป็นอาจารย์ผู้หญิงคนเดียวในสาขาด้วย)
จอยเรียนจบปริญญาตรีโครงการ Twinning Engineering Program (TEP) ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ร่วมกับ UNSW, Australia จบในสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าค่ะ พอจบตรีก็เรียนต่อโทที่ University of Nottingham ที่ประเทศอังกฤษ หลักสูตร Electrical Engineering for Sustainable and Renewable Energy และจบการศึกษาด้วยคะแนนระดับ Merit ค่ะ
หลังจากเรียนจบโทก็ทำงานประจำซักพัก ก่อนจะมาสมัครเป็นอาจารย์ที่สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น ทำงานเป็นอาจารย์อยู่สองปี ประกอบกับตอนนั้นได้รับโอกาสสมัครทุนเรียนต่อปริญญาเอกที่ประเทศญี่ปุ่น (Innovative Asia Scholarship) โชคดีที่ได้รับทุนนี้ เลยทำเรื่องลาเรียนและได้ไปเรียนต่อเอกที่ Shibaura Institute of Technology ประเทศญี่ปุ่น ในสาขา Regional Environment System ค่ะ
วันที่เรียนจบ รู้สึกอย่างไรบ้างคะ
ดีใจมากค่ะ พอเรียนจบใหม่ๆ ครอบครัวและเพื่อนก็เรียกว่า ดร. ตอนนั้นเขินและไม่ชินเลยค่ะ รู้สึกภูมิใจในตัวเองมากด้วย และรู้สึกขอบคุณทุกๆคน ที่มีส่วนช่วยเราให้มาถึงเป้าหมาย ตั้งแต่อาจารย์ที่ปรึกษา ครอบครัว และเพื่อนๆ ค่ะ
ขอถามได้ไหมคะว่าทำดุษฎีนิพนธ์เกี่ยวกับอะไร มีข้อค้นพบอะไรที่สำคัญและอยากแบ่งปันไหมคะ
หัวข้อ Thesis ปริญญาเอกที่ทำคือ การเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ Photovoltaic (แปลง่ายๆ แผง Solar) ในสภาวะความเข้มแสงและอุณหภูมิต่างๆค่ะ ในปัจจุบันมีการใช้ Solar ในการผลิตไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นในระดับ Residential หรือ Industrial ซึ่งเป็นพลังงานที่สะอาด ไม่มีมลภาวะ แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องสภาพอากาศ เพราะแผง Solar เราตั้งกลางแจ้ง วันไหนที่ฟ้าครึ้ม ความเข้มแสงน้อย มีเงาตกกระทบ หรือในต่างประเทศมีหิมะตก ก็จะส่งผลทำให้ปริมาณของกำลังไฟฟ้าลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดังนั้นหัวข้อวิจัยคือ ใช้ concept ทางด้านวิศวกรรมไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบวงจรหรือคิดค้น algorithm ที่สามารถ track หาจุดที่กำลังไฟฟ้าสูงสุดและแม่นยำ ในสภาวะความเข้มแสงและอุณหภูมิต่างๆ ถึงแม้ว่างานวิจัยที่ทำจะทำกับระบบ Photovoltaic ขนาดเล็ก แต่ก็ได้ข้อค้นพบที่สำคัญซึ่งสามารถนำไปต่อยอดกับระบบที่ scale ใหญ่ขึ้นได้ในอนาคต
ขอย้อนถาม ทำไมถึงตัดสินใจมาเรียนปริญญาเอก
ต้องย้อนกลับไปตอนที่เป็นอาจารย์ใหม่ ๆ ค่ะ ตอนนั้นเรารู้สึกสนุกกับการสอน สนุกกับการทำงาน แต่ก็ยังมีทักษะหลายๆอย่าง ซึ่งเรายังต้องพัฒนาอยู่ หนึ่งในนั้นคือการทำวิจัยค่ะ เพราะตอนที่เรียนโทเราทำแต่ Dissertation แต่ด้วยระยะเวลาสั้น ๆ เลยได้แค่ทำเป็นรูปเล่ม ส่งแค่ในมหาวิทยาลัยเท่านั้น เลยไม่มีโอกาสได้เรียนรู้ว่าการทำวิจัยจริง ๆ เพื่อสร้าง Contribution ต้องทำอย่างไร และขั้นตอนนำงานไปตีพิมพ์ใน Journal ต่างๆต้องทำอย่างไรบ้าง ซึ่งตรงนี้เป็นเหตุผลหลักที่ตัดสินใจเรียนปริญญาเอกเพราะอยากจะเพิ่มคุณวุฒิและพัฒนาตนเองทางด้านการทำวิจัยให้ดีขึ้นค่ะ
ระหว่างเรียนปริญญาเอก ชีวิตเป็นอย่างไรบ้างคะ เล่าให้เราฟังหน่อย
โชคดีที่เรามีประสบการณ์ในการเรียนต่างประเทศมาก่อน ตั้งแต่เรียนตรีและโท เลยไม่ได้มีปัญหาเรื่องการปรับตัวตอนมาเรียนเอกที่ญี่ปุ่นค่ะ เราสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดี จะมีปัญหาก็คงเป็นภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเราไม่ได้เก่งมาก เพิ่งเรียนมาได้ไม่นานก่อนที่จะมาที่ญี่ปุ่นจริง ๆ และคนญี่ปุ่นบางส่วนก็พูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย เราเลยต้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนญี่ปุ่นและเพื่อนต่างชาติที่พูดญี่ปุ่นได้ให้ช่วย ส่วนใหญ่จะเป็นการ Settle ช่วงแรกและสิ่งที่ต้องทำในชีวิตประจำวัน เช่น การติดต่อหาบ้านพัก เปิดบัญชีธนาคาร ทำบัตรรถไฟ โทรศัพท์ติดต่อช่างมาซ่อมบ้าน ฯลฯ เพื่อน ๆ ก็ยินดีที่จะช่วยเราค่ะ
ในหนึ่งสัปดาห์ เราจะเข้าห้องแลปจันทร์ถึงศุกร์ ไม่ได้มีเวลา Office hour ว่าเข้ากี่โมงออกกี่โมง เพราะ Professor จะให้นักศึกษารับผิดชอบตัวเอง นอกจากว่าวันไหนที่มี Meeting ก็ต้องมาให้ตรงเวลา นอกจากทำวิจัยแล้ว จอยได้มีโอกาสเป็น Teaching Assistant ช่วยสอนในรายวิชาต่างๆ และเป็น Tutor ให้นักศึกษาต่างชาติที่เข้ามาทำกิจกรรมในแลปค่ะ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ
ส่วนเสาร์-อาทิตย์ ถ้าไม่มีงานอะไรก็จะพัก เล่นเปียโน เข้าฟิตเนส และไปเที่ยว (เที่ยวเองบ้างไปกับเพื่อนบ้าง) เพราะว่าประเทศญี่ปุ่นเดินทางสะดวก ขึ้นรถไฟไปไหนก็ได้ เลยได้ออกไปเดินเล่น กินของอร่อย ถือว่าเป็นการให้รางวัลตัวเองหลังจากทำงานหนักมาทั้งอาทิตย์ค่ะ
ระหว่างเรียนเจออุปสรรคอะไรบ้างไหม
จอยเชื่อว่าทุกคนเรียนหนังสือก็จะมีช่วงท้อ โดยเฉพาะการเรียนปริญญาเอก ซึ่งไม่เหมือนกับการนั่งเรียนในห้องเรียนตอน ป ตรี และโท นอกจากจะมีอุปสรรคด้านภาษาญี่ปุ่น มี culture shock บ้าง แต่ปัญหาที่หนักที่สุดคือ ความกดดันที่มาจากตัวเอง ค่ะ
โดยเฉพาะถ้าใครเรียนในสาขาวิศวะฯ ซึ่งจะต้องมีการทำแลปเยอะมาก จะเข้าใจว่ามันมีหลายปัจจัยทั้งที่คุมได้และคุมไม่ได้เข้ามาตลอด วงจรที่ออกแบบไม่ทำงาน โปรแกรมที่เขียนเกิด Error ก็ต้องแก้ ต้องอ่านหนังสือ อ่านบทความเยอะมากๆ จนไม่ได้นับเลยว่าอ่านงานไปกี่ชิ้นแล้ว โดยเฉพาะปีแรกของการเรียนที่จะต้องทำ Literature Review เพื่อที่จะศึกษางานของนักวิจัยท่านอื่น ๆ ซึ่งเราจะได้ไอเดียมาต่อยอดในงานของเรา
ทุกสัปดาห์ในแลปจะจัด meeting กับ Professor และรุ่นพี่ PostDoc ซึ่งเราจะต้องนำเสนอความคืบหน้าของงานเรา มีหลายครั้งที่ถูกถามคำถาม และลงความเห็นว่าไอเดียของเรายังไม่มีประสิทธิภาพ มีช่องโหว่และข้อจำกัดอยู่เยอะ ยังไม่เพียงพอสำหรับการนำไปตีพิมพ์ ยอมรับเลยว่าท้อค่ะ เพราะเราไม่เคยผิดหวังเรื่องเรียนมาก่อน พอเจอแบบนี้หลาย ๆ ครั้งเข้า สิ่งที่ตามมาคือ เราเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่าเรามีศักยภาพมากพอที่จะเรียนปริญญาเอกจริงหรือเปล่า เรามีความสามารถพอหรือเปล่า จนกลายเป็นกดดันตัวเองโดยไม่รู้ตัวค่ะ ไม่อยากทำให้ครอบครัวผิดหวัง ไม่อยากทำให้ทางสถาบันฯ ที่ให้โอกาสเราได้มาเรียนผิดหวัง
ผ่านช่วงเวลาที่ยากของปริญญาเอกมาได้อย่างไร
อันดับแรกคือครอบครัวค่ะ ครอบครัวจะโทรติดต่อเสมอ ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง เหนื่อยมั้ย ในช่วงวันหยุดยาวครอบครัวก็จะบินมาหา นั่งชินกันเซนไปเที่ยวที่ต่าง ๆ ด้วยกัน นอกจากนี้ก็จะมีกลุ่มเพื่อนๆที่ชวนไปกินข้าว มีเรื่องไม่สบายใจก็สามารถพูดให้ฟังได้ พวกเขาบอกเสมอว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวนะ ยังมีอีกหลายคนที่คอยอยู่ข้างๆและให้กำลังใจเราอยู่ตลอด
จอยคิดว่ากำลังใจที่ดีนั้นอยู่รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นฟัง podcast ข้อคิดดี ๆ หรือดู Vlog ชีวิตนักศึกษาปริญญาเอก และอีกช่องทางหนึ่งคืออ่าน content ในเพจก็แค่ปริญญาเอกนี่แหล่ะค่ะ ที่เรารับรู้เรื่องราวจากหลายคนที่กำลังเรียนเอกเหมือนกัน พบเจอปัญหาคล้าย ๆ กัน และที่สำคัญคือ พวกเขามี mindset เป็นอย่างไรจึงทำให้ผ่านโมเมนต์ที่ยากและสามารถประสบความสำเร็จได้
พอเรามีกำลังใจ จะทำให้เรามีไฟที่จะสู้ต่อ และอยากจะทำงานตรงหน้าให้ดี จุดที่คิดว่าเราเริ่มประสบความสำเร็จไปอีกก้าวแล้ว คือ ได้มีโอกาสนำเสนองานวิจัยที่งาน Conference ในประเทศอังกฤษ และงานของเราได้ถูกเชิญให้ไปตีพิมพ์ใน International Journal ตอนนั้นรู้สึกดีใจที่งานของเราเริ่มมีคนสนใจ หลังจากนั้นหนึ่งปีก็ได้รับรางวัล Best Paper, Best Presentation และ Student Travel Award จากงาน Conference ต่าง ๆ ค่ะ
คิดว่าปัจจัยอะไรที่ทำให้เรียนสำเร็จคะ
คิดว่ามีอยู่สามอย่างหลัก ๆ คือ
การวางแผน
เป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ สำหรับการเรียนปริญญาเอก ไม่ว่าจะเป็นแผนออกแบบการทดลอง ระยะเวลาที่ใช้ เราจะทำแลปส่วนนี้เสร็จเมื่อไหร่ สรุปผลเมื่อไหร่ ถ้าทำวิธีที่วางแผนไว้ไม่ work จะทำยังไงต่อ และวางแผนที่จะนำเสนองาน conference หรือ journal ไหน งบประมาณที่จะใช้เท่าไหร่ ฯลฯ ซึ่งมี Plan A, Plan B ไม่พอ หลายครั้งต้องมี Plan C เผื่อไว้ด้วย ซึ่งจะมีอาจารย์ที่ปรึกษาคอยช่วยเหลือเราในระหว่างทาง
วินัย
จอยเชื่อว่าคนที่เข้ามาเรียนปริญญาเอกทุกคนเก่งหมด แต่ถึงจะเก่งแค่ไหนเราก็ต้องมีวินัยในตัวเอง ถึงแม้จะมีช่วงเวลาอยากขี้เกียจ ไม่อยากทำแลปต่อ จอยจะบอกตัวเองเสมอว่าอย่าหยุดเดิน เดินช้ากว่าคนอื่นก็ไม่เป็นไร ล้มบ้างก็ไม่เป็นไร ไม่เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ขอให้ก้าวไปข้างหน้า มีวินัยอย่างสม่ำเสมอ สุดท้ายเราก็จะถึงเป้าหมายค่ะ
เชื่อมั่นในตัวเอง
ข้อนี้สำคัญที่สุดเลยค่ะ ต้องเชื่อว่าเราทำได้ ถ้าวันนี้ยังทำไม่ได้ก็ไม่ต้องเสียใจ ให้โอกาสตัวเอง ยังไงพรุ่งนี้เราก็ทำได้
ปัจจุบัน ได้ใช้ทักษะ ความรู้จากการเรียนมาประยุกต์ใช้กับงานหรือไม่คะ
ได้ใช้เยอะมากๆค่ะ เราสามารถนำทักษะที่ได้จากการเรียนไม่ว่าจะเป็นวิธีการสอน การทำวิจัย ขั้นตอนการแก้ปัญหา มาใช้ในการทำงานเป็นอาจารย์ และที่สำคัญคือ เราสามารถนำทักษะที่ได้มาถ่ายทอดให้กับนักศึกษา เพื่อให้พวกเขานำไปปรับใช้ต่อในอนาคต
มีข้อคิดอะไรอยากฝากอะไรไว้ให้ผู้ที่กำลังเรียนปริญญาเอกอยู่บ้าง
อยากจะบอกกับทุกคนที่กำลังเรียนอยู่ว่า It may be hard, but it’s worth it ถึงแม้หนทางจะยาก มีอุปสรรค ขอให้ถ้าเรามีความตั้งใจ ไม่ดูถูกตัวเอง เชื่อว่าความสำเร็จก็ไม่ไกลเกินเอื้อม ถ้าจอยทำได้ทุกคนก็ทำได้ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
ท้ายสุด คำว่า ก็แค่ปริญญาเอก มีความหมายว่าอย่างไรสำหรับคุณ
ปริญญาเอกอาจเป็นหนึ่งสิ่งที่พิสูจน์ว่าเราประสบความสำเร็จในสายวิชาการ แต่ถึงแม้เราจะได้ปริญญาเอก มีคำนำหน้าแล้ว ก็ยังมีหลายอย่างให้เราได้เรียนรู้อยู่ตลอดค่ะ
เพจก็แค่ปริญญาเอก ขอขอบคุณ ดร.จอยสำหรับการแบ่งปันประสบการณ์และมุมมองอันมีค่าเกี่ยวกับการเรียนปริญญาเอกมาก ๆ นะคะ ขอบคุณที่ได้มาสร้างแรงบันดาลใจสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนปริญญาเอก เราเชื่อมั่นว่า อาจารย์ ดร.จอยจะเป็นแรงบันดาลใจที่ดียอดเยี่ยมให้กับนักศึกษาที่เรียนในคลาสของอาจารย์ได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
ทางเพจยินดีเป็นพื้นที่สำหรับการแบ่งปันประสบการณ์การเรียนปริญญาเอก หากท่านใดต้องการแบ่งปันประสบการณ์การเรียนสามารถติดต่อ inbox มาพูดคุยกับแอดมินทางเฟซบุ๊กเพจก็แค่ปริญญาเอก ได้เสมอค่ะ