‎It’s Our Birthday‬

padpan

พี่สาวพูดถึงน้องสาว

กำลังใจสำคัญในช่วงที่ฉันเรียนปริญญาเอกคือน้องพัน แม้จะอยู่คนละเมือง เราจะโทรศัพท์หากันทุกวัน

ว่าไปแล้ว ในช่วงที่เรียน ชีวิตของฉันค่อนข้างเรียบง่าย ไม่มีอะไรพิเศษ นอกจากการรับผิดชอบงานตรงหน้า วางเป้าหมายระยะสั้น ระยะยาว แล้วก็เดินไปให้ถึง

ในช่วงปีสุดท้ายซึ่งเป็นปีที่ต้องเขียนงานหนักมาก ฉันสามารถนั่งอยู่ในห้องสตูดิโอของฉันอย่างน้อยสามวันโดยไม่ต้องออกไปไหนเลยก็ได้

ในห้องนี้ ฉันไม่ได้แอบซุ่มสร้างอาวุธอะไรนะ กิจวัตรประจำวันของฉันก็คือ ตื่นมา ล้างหน้า แปรงฟัน เปิดคอมพิวเตอร์ ทานข้าวเช้า เริ่มทำงานตามหน้าที่ ทานข้าวเที่ยง ทำงานต่อ ตอนเย็นก็เล่นโยคะในห้องนี้ แล้วก็ อาบน้ำ เข้านอนตามเวลา ตื่นมาใหม่ ตอนเช้า กลางวัน เย็น ไปแบบนี้เรื่อยๆ และวนเวียนกับกิจวัตรเดิมๆ อยู่อย่างนั้น

หลายคนถามว่า ฉันทำได้อย่างไร ไม่เบื่อเหรอ แต่ฉันก็ทำได้นะ ฉันรู้สึกว่าสิ่งนี้คือหน้าที่ ทำไปเรื่อยๆ ตามนั้น ไม่ทุกข์ ไม่ร้อนใจ เพราะฉันเป็นคนแบบนี้ ชอบอยู่นิ่งๆ คิดๆ อ่านๆ เขียนๆ เป็นสิ่งที่ฉันทำแล้วมีความสุข ถ้าจะให้ฉันโลดแล่น ไปกับกิจกรรมมากมาย แล้วให้กลับมานั่งคิดงาน ฉันจะทำไม่ได้ และการออกไปแก้เบื่อแบบนั้น กลับทำให้ฉันรู้สึกเหนื่อยมาก

แต่ก็นั่นแหละ ถึงแม้วินัยจะเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการเรียนปริญญาเอก แต่สิ่งที่ต้องมีควบคู่ไปด้วย ก็คือ การได้พักบ้าง เพราะคนเราจะคร่ำเคร่งทำอะไร แบบติดเครื่องแล้วพุ่งชนเป้าหมาย โดยไม่หยุดพักไม่ได้หรอก เพราะบางทีในช่วงที่สมองผ่อนคลายนั่นแหละเป็นช่วงที่เราจะคิดงานออกแบบจริงๆจังๆ

น้องสาวของฉันนั่นแหละ ที่มาเติมเต็มในจุดเหล่านั้นที่ตัวฉันขาดไป ด้วยเราคุยโทรศัพท์กันทุกวัน เขาจะชวนฉันคุยเรื่องสนุกๆ ผ่อนคลายสมองได้ โมเมนต์ที่นั่งคุยโทรศัพท์กับน้องสาวนี่แหละเป็นอีกช่วงเวลาของการพักผ่อนของฉัน พันเป็นกำลังใจให้ฉันยามฉันเหนื่อยล้า เป็นคนที่ทำให้ฉันยิ้ม หัวเราะ และทำให้สมองได้ผ่อนคลาย

ฉันเฝ้าคอยชื่นชมกับจินตนาการ และมุมมองแง่บวกที่น้องมีต่อชีวิต ความสบายๆ ของน้องสอนอะไรให้กับฉันได้มากทีเดียว

การเป็นเขาทำให้ฉันได้เรียนรู้อีกมุมของการเรียนปริญญาเอกและอีกมุมของชีวิตว่า การจับจ้องที่เป้าหมายและเดินไปให้ถึงนั้นเป็นเรื่องดี แต่ระหว่างทางเราจำเป็นต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์เล็กๆ ยิ้มหวาน มีความสุข กับ สิ่งละอันพันละน้อย ในทุกช่วงเวลาด้วย

เพราะคุณค่าของการเรียนปริญญาเอก ไม่ได้อยู่แค่การเดินถึงเส้นชัย แต่กลับเป็นประสบการณ์ระหว่างทางต่างหาก เพราะการเร่งไปถึงซึ่งเป้าหมาย แต่ขาดมิติของความสนุก ก็จะทำให้เมนูการเดินทางครั้งนี้ไม่ครบรสชาติ ไม่กลมกล่อม อย่างที่ควรจะเป็น

ขอบคุณน้องสาวที่ทำให้ชีวิตปริญญาเอกและชีวิตโดยรวมของฉันสมดุลอย่างที่สุด

ขอบคุณที่เกิดมาเพื่อกันและอยู่ข้างกันแบบนี้ในทุกๆวัน

‪‎น้องสาวพูดถึงพี่สาว‬

กำลังใจสำคัญในช่วงที่ฉันเรียนปริญญาเอกคือพี่พัด แม้จะอยู่คนละเมือง เราจะโทรศัพท์หากันทุกวัน

ในแต่ละวันไม่ว่าฉันจะเจื้อยแจ้วเรื่องอะไร มีสาระบ้าง ไม่มีบ้าง พี่พัดก็จะคอยรับฟังฉันเสมอ และ พี่พัดมักจะมีข้อคิดและข้อแนะนำดีๆให้กับฉัน

ในการเรียนปริญญาเอก มหาวิทยาลัยมีอาจารย์ที่ปรึกษาให้ฉันคนเดียว แต่ฉันก็ได้พี่พัดนี่แหละ ที่เปรียบเสมือนอาจารย์ที่ปรึกษาคนที่สองของฉัน

ว่าไปแล้ว พี่พัดเป็นโค้ชชั้นยอดของฉัน ช่วยอธิบาย แบ่งปันทุกมุมมอง ตั้งแต่วิทยานิพนธ์ไม่เป็นรูปเป็นร่างจนฉันเรียนจบเลยทีเดียว

พี่พัดมีความเป็นครูในตัว เขาใจเย็น สอนเก่ง มีวิธีอธิบาย เปลี่ยนเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย พี่พัดเป็นครูให้กับฉันตั้งแต่ฉันจำความได้แล้ว ตอนเด็กๆพี่พัดคอยสอนการบ้านให้ฉัน ช่วยติวเวลามีสอบ ช่วยฉันวาดรูประบายสีวิชาศิลปะจนผลงานได้ติดบอร์ดเกือบทุกครั้ง ติดบ่อยๆเข้า ครูถึงกับส่งฉันไปแข่งวาดรูประบายสีระดับโรงเรียน แต่พอฉันไปแล้ว ครูคงสงสัยว่าทำไมแป้ก ได้ขนาดนั้น ฮ่าๆ

ฉันเป็นคนช่างฝัน ฉันมักจะมีโปรเจ็คใหม่ๆมานำเสนอพี่พัด พี่พัดก็เห็นด้วยทุกครั้ง ฉันมักไม่ค่อยอยู่นิ่ง ต้องคอยหาแรงบันดาลใจใหม่ๆอยู่เสมอ แต่บางทีมัวแต่หาแรงบันดาลใจใหม่ๆ งานวิจัยก็ไม่ค่อยจะเดิน ก็ได้พี่พัดนี่แหละที่คอยเตือนสติ

พี่พัดเป็นคนขยันและแน่วแน่ พี่พัดคือคนที่สามารถทำงานวันละแปดชั่วโมง นอนแปดชั่วโมง และกิจวัตรอื่นๆ อีกแปดชั่วโมง (แบบเป๊ะเว่อร์) ฉันเห็นแล้วก็ทึ่ง เพราะช่างต่างกับฉันเสียจริงๆ อย่าให้อธิบายเลยนะว่าต่างอย่างไร

ฉันเพิ่งมารู้จักตัวเองจริงๆ ก็จากการเรียนปริญญาเอกนี่แหละ ว่าฉันเป็นคนที่ต้องใช้จินตนาการในการทำงานสูงมาก คงเหมือนกับศิลปิน ที่ต้องมีแรงบันดาลใจ ปล่อยใจให้ล่องลอยเป็นอิสระไปกับจินตนาการ

ฉันเคยอ่านหนังสือเจอว่า ขนาดไอน์สไตน์ ยังใช้จินตนาการ 80 และความรู้ 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นแนวคิดที่เข้าทางฉันเลย

สำหรับฉัน จินตนาการสำคัญกว่าความรู้จริงๆ เพราะจินตนาการเป็นใบเบิกทางสู่ความรู้ ถ้าไม่มีจินตนาการคนเราก็คงไม่สามารถจะเสาะแสวงหาความรู้ใหม่ๆ มาได้

ถ้าวันไหนที่ฉันปล่อยให้ตัวเองเครียดแม้สักนิดเดียว ฉันจะคิดอะไรไม่ออกเลย ต่างกับเวลาที่ฉันไม่เครียด ทำใจสบายๆ ความรู้ทั้งหลายที่ฉันเคยคิดว่าไม่รู้ก็ไหลพรั่งพรูออกมามากมายจนฉันเองก็อัศจรรย์ใจ นี่แหละวิธีการทำงานของฉัน

ซึ่งแตกต่างจากพี่พัด ที่ค่อนข้างเป็นมนุษย์งาน วิธีการเรียนรู้ของเขาคือการลงมือทำ และเขาก็ได้เรียนรู้หลายสิ่งดีๆจากการทำงานหนักตรงนั้น

ฉันโชคดีที่มีพี่สาวเป็นแบบอย่าง ช่วยคุมสติ จินตนาการ ความฝัน ของฉัน ที่โลดแล่นไปไกล ให้กลับมาอยู่กับความจริงตรงหน้า ความจริงของคำว่า “ลงมือทำ”

การเป็นเขาทำให้ฉันได้เรียนรู้อีกมุมของการเรียนปริญญาเอกและอีกมุมของชีวิตว่า การมีจินตนาการ ความฝัน และสมองที่สร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆได้ตลอดเวลาเป็นเรื่องดี แต่มันจะดีที่สุดถ้าไอเดียนั้นได้นำมาทำให้เกิดเป็นรูปธรรมด้วย

การจะเดินไปให้ถึงเส้นชัยนั้น ต้องอาศัย วินัย ความมุ่งมั่น อดทน และอีกหลายอย่าง ที่นักฝันหลายคนต้องเรียนรู้ ว่าไม่มีอะไรจะได้มาง่ายๆ โดยไม่ต้องแลกด้วยหยาดเหงื่อและคราบน้ำตา

ขอบคุณพี่สาวที่ทำให้ชีวิตปริญญาเอกและชีวิตโดยรวมของฉันสมดุลอย่างที่สุด

ขอบคุณที่เกิดมาเพื่อกันและอยู่ข้างกันแบบนี้ในทุกๆวัน

คนใกล้ชิดหลายคนมักพูดเสมอว่า เราสองคนเหมือนกันมาก พูดจาสไตล์เดียวกัน หน้าคล้าย เสียงเหมือน เวลาคุยโทรศัพท์ ขนาดพ่อกับแม่ยังแยกไม่ออกเลยว่าใครเป็นใคร

แต่พอได้ลงมือทำงานจริงๆ เราก็จะเห็นว่า เราสองคนมีความต่างมากเลย ทั้งวิธีคิด วิธีทำงาน และ วิธีการมองโลก

ถ้าเปรียบเป็นนิทานเรื่องกระต่ายกับเต่า

พี่สาว ยอมรับว่าตัวเองทำงานแบบ เต่า ในขณะที่ น้องสาว ก็ยอมรับว่าตัวเองทำงานแบบกระต่าย

และในที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเต่าหรือกระต่าย เราก็สามารถถึงเส้นชัยเหมือนกัน ในแบบเฉพาะตัวของแต่ละคน

ใน เพจก็แค่ปริญญาเอก‬ นี้ เราสองคนช่วยกันคิด เห็นเหมือนบ้าง เห็นต่างบ้าง แต่เราก็พยายามหลอมรวมความคิด ผสมทุกงานเขียนของเราให้ลงตัวที่สุด โดยมีเป้าหมายเดียวกัน คือ สร้างประโยชน์ให้กับแฟนเพจทุกท่าน

เราสองคนจริงใจมากกับสิ่งที่เราเขียน รักงานที่ทำนี้มาก รักเพจนี้มาก และ ตั้งใจที่จะพัฒนาและทำงานนี้ให้ดีขึ้นในทุกๆวัน

ไม่ว่ารูปแบบการทำงานจะต่างกันแค่ไหน มีสิ่งหนึ่งที่เราเหมือนกัน และ เหมือนกันมาโดยตลอด ก็คือ เรามีวันคล้ายวันเกิดวันเดียวกัน

26ธันวาคม‬ ค่ะ วันนี้เป็นวันเกิดของเราสองคน

เราฉลองวันเกิดและเป่าเค้กก้อนเดียวกันทุกปี

ทุกครั้งที่มีคนเห็นจะถามว่า เป็นฝาแฝดเหรอ?

เราจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่ใช่ค่ะ เกิดวันเดียวกัน แต่ห่างกันสองปี”

นอกจากความรัก ความหวังดี ที่เราสองคนมีให้กัน เราอยากขอส่งพรวิเศษไปถึงแฟนเพจทุกท่าน ขอให้ทุกคนมีความสุข ได้พบพานงานที่รัก งานแห่งชีวิต ได้ดึงเอาศักยภาพที่ซ่อนอยู่มาทำงานตรงหน้าให้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้

‪‎ขอบคุณที่อยู่ด้วยกัน‬ ในวันพิเศษของเราสองคน‬

ใส่ความเห็น