วันนี้ “ว่าที่ดร.” ที่เราจะไปสัมภาษณ์พูดคุยด้วย เป็นผู้กองหนุ่มอนาคตไกล นักศึกษาปริญญาเอก สาขารัฐประศาสนศาสตร์ (Public Administration) มหาวิทยาลัยศรีปทุม ไปทำความรู้จักกับเขากัน
ช่วยแนะนำตัวด้วยค่ะ
ครับ สวัสดีครับ ผม ร้อยตำรวจเอก อภิชาติ วงษ์ศรี ตำแหน่ง รองสารวัตร สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวงครับ ชื่อเล่นชื่อ “เอ็ม” นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 62 ปริญญารัฐประศาสนศาสตร์บัณฑิต(ตร.) เกียรตินิยมอันดับ 2 จาก โรงเรียนนายร้อยตำรวจ รัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และปัจจุบันศึกษาปริญญาเอกอยู่ที่ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผ่านการสอบโครงร่างวิทยานิพนธ์ไปเมื่อเร็วๆนี้ครับ
ทำไมถึงคิดมาเรียนปริญญาเอกคะ
ที่ตัดสินใจเรียนเพราะ “ขี้เกียจ” ใช่ครับ ฟังไม่ผิดหรอกครับ เหตุผลฟังดูแปลกๆ แต่ตัดสินใจไปเรียนเพราะขี้เกียจจริงๆ เพราะคิดว่า ในอนาคตก็คงต้องเรียน แต่ไม่อยากไปเรียนตอนแก่หรือไปเรียนตอนที่แบบว่า มีครอบครัว หรือมีลูกแล้ว เพราะกลัวไม่มีเวลาให้ครอบครัวครับ
ส่วนการจบปริญญาเอก ในด้านหน้าที่การงานของตำรวจ ถึงแม้จะไม่มีการปรับขั้นเงินเดือน หรือเงินเพิ่มพิเศษอะไรเลยก็ตามในสายงานนี้ แต่คาดว่าในอนาคต วิสัยทัศน์ และความรู้จากการศึกษาปริญญาเอก สามารถนำไปช่วยพัฒนาองค์กรตำรวจ เพื่อให้เป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ชีวิตการเรียนปริญญาเอกช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ
ช่วงนี้ก็อยู่ในช่วงทำดุษฎีนิพนธ์ครับ เพิ่งสอบผ่านโครงร่างวิทยานิพนธ์ผ่านไป คณะกรรมการมีมติให้ผ่าน และมีข้อแก้ไขไม่มากนัก จากนี้ก็คงจะต้องวุ่นกับการเก็บข้อมูลกับกลุ่มประชากรตัวอย่าง และเก็บข้อมูลการสัมภาษณ์กับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ คิดดูแล้วคงจะวุ่นน่าดู ยิ่งงานของตำรวจเวลาน้อยๆ ด้วย แอบหนักใจอยู่เล็กน้อย แต่ก็คิดว่า ไหวครับ
เมื่อมาเรียน ป.เอกแล้ว มีการแบ่งเวลาในชีวิตยังไงบ้างคะ
ช่วงแรกๆ ก็ค่อนข้างแบ่งเวลายากครับ เพราะช่วงที่เริ่มเรียนนั้น เป็นนายเวรผู้บังคับการตำรวจรถไฟ ก็จะไม่ค่อยเวลา แต่ก็พยายามหาเวลาไปเรียน coursework ให้ได้ แต่โชคดีที่ผู้บังคับการท่านเข้าใจและสนับสนุนในการศึกษา เวลาที่จำเป็นจะต้องไปเรียน ท่านก็จะอนุญาตให้ไป
เมื่อจบภาค coursework แล้ว ก็เป็นช่วงของการทำวิจัย เมื่อไม่ได้มีภารกิจ ก็จะไปตามห้องสมุดมหาวิทยาลัยต่างๆ ยิ่งโดยเฉพาะบทที่ 1และ2 ที่ต้องหากรอบแนวคิด จากหนังสือและงานวิจัยต่างๆ ต้อง review หนักมาก ห้องก็จะเป็นไปด้วยหนังสือ บนโต๊ะทำงานก็จะเต็มไปด้วยเอกสารการเรียน เป็นอะไรที่รกสุดๆ เลย
แต่ก็มีการแบ่งเวลาสำหรับงานอดิเรกบ้างครับ ผมชอบออกกำลังกาย เล่นฟุตซอล วิ่ง เวทเทรนนิ่ง ตีแบด เล่นบาส ยูโด ไปเรื่อยครับ เป็นการพักผ่อนสมองจากการเรียนและงานวิจัย
คิดว่าสิ่งที่ยากในการเรียนปริญญาเอกคืออะไรคะ
สำหรับผม สิ่งที่ยากในการเรียนปริญญาเอก ไม่ใช่เนื้อหา หรือความยากของการวิจัย แต่สิ่งที่ยากคือ “เวลา” ตราบใดที่ไม่มีเวลา ยุ่งวุ่นวายอยู่กับภาระหน้าที่การงาน หรือภาระอย่างอื่น และไม่สามารถจัดสรรมันให้เพียงพอกับการเรียนปริญญาเอก รับรองว่า ทุกๆ อย่างของปริญญาเอกจะยากเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ถ้าเรามีเวลาเพียงพอ แม้จะยากก็ยังค่อยๆ เรียนรู้ ทำความเข้าใจ และค้นคว้ามันได้ครับ
คิดว่าทำอย่างไรที่จะผ่านไปได้คะ
กัดติดครับ ยิ่งในช่วงทำวิจัย หลายคนปล่อยทิ้ง ถอดใจกับการศึกษาค้นคว้า มันทำให้งานวิจัยไม่คืบหน้า พอไม่คืบหน้าก็ท้อแท้ เพราะฉะนั้นอย่าทิ้งมันครับ กัดติดมัน กระตุ้นตัวเองตลอดเวลา หยิบมันขึ้นมาทำ วางแผนกิจกรรมที่จะต้องทำ แล้วทำตามแผน เท่านี้ผมคิดว่าปริญญาเอก ก็อยู่ไม่ไกลแล้วล่ะครับ
ผมมีแนวความคิดนึงว่า “เราไม่ได้เรียนปริญญาเอกคนเดียว” เพราะคนอื่นก็เรียนด้วย คนอื่นในที่นี้คือ คุณพ่อ คุณแม่ พี่ ป้า น้า อา ครอบครัว เพื่อน เจ้านาย ทุกคนร่วมเรียนกับเราเพื่อให้เราได้จบเอก คนเหล่านี้รอความสำเร็จของเราอยู่ ถ้าเราล้มหมายความว่า เราก็ทำเค้าผิดหวังและล้มลงเดียว ผมจึงคิดว่าเราไม่ได้เรียนเพียงลำพังครับ
เมื่อจบปริญญาเอกแล้ว คิดว่าจะทำอะไรเป็นอย่างแรกคะ
ฉลองสิครับ ที่บ้านรอฉลองอยู่ นี่ถามทุกวันเลย เมื่อไหร่จบ ฮ่าๆๆ
———-
เพจก็แค่ปริญญาเอกขออวยพรให้ ผู้กองเอ็ม ประสบความสำเร็จในโดยเร็วค่ะ
แขกรับเชิญคนต่อไปที่จะมาแบ่งปันประสบการณ์แบบ Super busy จะเป็นใคร
ติดตามได้ที่นี่ที่เดียว!