การเขียนเป็นทักษะที่สำคัญมากสำหรับการเรียนปริญญาเอก

การเขียนในสถานที่ที่มีบรรยากาศเอื้ออำนวยก็เป็นเรื่องสำคัญมากเช่นกัน

คนเก่งๆหลายคน เครียด หมดแรง พ่ายแพ้ เมื่อต้องนั่งลงเขียนเล่มในช่วงท้ายของการเรียน

หลายคนประเมินความท้าทายในการเขียนเล่มไว้ต่ำเกินไป

หลายคนทิ้งเวลาล่วงเลย กว่าจะมานั่งเขียนจริงๆจังๆ ก็เป็นช่วงที่ใกล้หมดเวลา

เมื่อมีเวลาบีบคั้น การเขียนจึงกลายเป็นเรื่องหนัก…ยกกำลังสอง…กำลังสาม

การเขียนเรื่องซับซ้อนให้เป็นเรื่องง่าย ชัดเจน และ ทำให้ผู้อื่นเข้าใจนั้น ต้องอาศัยสติและสมาธิเป็นอย่างมาก

การนั่งเขียนในสถานที่ที่มีบรรยากาศเหมาะสม สอดคล้องกับบุคลิกและลักษณะอารมณ์ของผู้เขียน เป็น ปัจจัยเสริมหนึ่งที่จะทำให้การเขียนมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเป็นคนเงียบๆ ชอบเก็บตัว มีแรงจูงใจภายในเพียงพอ คุณอาจเลือกทำงานที่บ้าน หามุมสงบในห้องทำงานส่วนตัว เพื่อผลิตผลงานให้สำเร็จ

ข้อดีของการทำงานที่บ้านคือ ไม่ต้องเสียเวลาแต่งตัว หรือ เดินทางไปที่ใดเลย สามารถทำงานได้เต็มที่ ตามที่เวลาของที่บ้านจะอำนวย

ถ้าคุณชอบพบปะผู้คน คุณอาจเลือกเขียนงานที่ออฟฟิศ (ที่บางมหาวิทยาลัยจัดไว้ให้) หรือ ที่ห้องสมุด เพราะคุณจะได้พบเพื่อนๆที่อยู่ในสภาวะคล้ายกัน และนั่นอาจเป็นแรงจูงใจที่ดีในการเขียนงาน

บางคนชอบทำงานในสถานที่ ที่ไม่ใช่บ้าน และ ไม่ใช่ที่ทำงาน เช่น ที่ร้านกาแฟ ข้อดีของร้านกาแฟ คือ มีการผสมผสานระหว่างทางเลือกที่หนึ่ง คือ ที่บ้าน และ ทางเลือกที่สอง คือ ที่มหาวิทยาลัย

ที่ร้านกาแฟ คุณไม่ต้องพบคนรู้จักมากนัก มีสมาธิกำลังดี ไม่โดดเดี่ยวจนเกินไป การได้เงยหน้าจากโน้ตบุ้ค แล้วเห็นผู้คนเดินไปเดินมา ช่วยให้เพลิดเพลิน ผ่อนคลายและนำมาซึ่งความคิดดีๆ

ช่วงปีสุดท้ายของการเรียนที่ต้องใช้สมาธิในการเขียนเล่มอย่างมาก เกือบร้อยละ 80 ของเวลาทำงานทั้งหมด ผู้เขียนเลือกทำงานที่บ้าน จำศีลอยู่ในห้องเช่าสตูดิโอ เล็กๆแคบๆ ขนาดประมาณ สี่คูณแปดเมตร ซึ่งถูกปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่เอนกประสงค์ ไว้ทั้งทำงาน กินข้าว พักผ่อน นอนหลับ และบางครั้งก็เป็นโรงยิม สำหรับแอโรบิค และโยคะ ด้วย

ส่วนอีกร้อยละ 10 ของเวลาทำงาน ผู้เขียนถึงจะไปห้องสมุด ยืมหนังสือเพิ่มเติมบ้าง และไปออฟฟิศเพื่อปริ้นท์งาน และพบปะผู้คนบ้าง

และอีกร้อยละ 10 ท้ายสุด ก็จะหอบงานที่ปริ้นท์แล้ว ไปนั่ง ขีดเขียน โยงใย แก้ไข ที่ร้านกาแฟบ้าง อะไรบ้าง

ตรงกันข้ามกับ เพื่อนของผู้เขียน สาวชาวเกาหลีที่รักการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ในช่วงปีสุดท้ายของการเขียนงาน เธอหอบงาน หนังสือ โน้ตบุ้ค ขึ้นเครื่องบิน ลงรถไฟ เดินทางไปหลายเมือง

เธอเล่าว่า เธอมักจะไปนั่งตามร้านกาแฟ หรือโรงแรมน่ารักๆ เพื่อคิดและเขียนงาน สำหรับเธอแล้ว เธอต้องใช้แรงบันดาลใจสูงมากในการเขียน

งานเขียนของเธอจะเสร็จเร็ว และออกมาเยี่ยมยอดที่สุด ถ้าเธอได้จิบชารสละมุน นั่งมองพระอาทิตย์ขึ้นและตกในสถานที่สวยๆ ประกอบกับฟังเพลงคลาสสิคของเบโทเฟนคลอเบาๆ

เธอใช้ชีวิตปริญญาเอกคุ้มค่ามาก เธอเดินทางไปทุกๆสามเมืองต่อการเขียนหนึ่งบท

ผู้เขียนจำได้แม่นว่า บทที่สี่ของเธอสำเร็จได้ด้วยแรงบันดาลใจจากสะพานพระเจ้าชาร์ลส์ของกรุงปราก ชายฝั่งทะเลในไอร์แลนด์ และ จัตุรัสเปียซซ่า เดล ดูโอโม ในฟลอเรนซ์

สิ่งแวดล้อมที่ผู้เรียน ปราณีต บรรจง เลือกสรร ด้วยตัวเอง ย่อมนำมาซึ่ง ผลลัพธ์ที่ดี

ลองสังเกตว่าสิ่งแวดล้อมแบบใดที่ทำให้คุณเขียนงานได้มีประสิทธิภาพที่สุด

เลือกปักหลักในที่ที่ดี เลือกที่จะอยู่กับคนรอบข้างที่ดี ส่งพลังด้านบวกให้กับคุณ ดูดซับพลังงานดีๆจากสิ่งแวดล้อมนั้น มาเขียนงานให้สำเร็จ

ที่เล่ามาทั้งหมด ต้องบอกก่อนว่า อย่าหลงทาง โดยแท้แล้ว ไม่มีสิ่งแวดล้อมใด สำคัญ เท่า สิ่งแวดล้อมภายในใจตัวเอง

แต่ถ้าตอนนี้ คุณยังอยู่ในช่วงเวิ่นเว้อ และกำลังฟื้นฟูสภาวะภายในใจเพื่อจะลุกขึ้นมาเขียนงานให้เสร็จ

ง่ายๆ เร็วๆ คือ ลองคิด เลือกและปรับ สิ่งแวดล้อมภายนอก ดูก่อน

ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปถึง กรุงปราก แค่พาตัวเองไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่จะดึงเอาศักยภาพภายในของคุณออกมาเพื่อลงมือทำ

สำหรับคุณ ที่ใดหนอ ที่จะนำมาซึ่ง สติ สมาธิ อันจะก่อให้เกิด ปัญญา ตามมา

คุณชอบเขียนงาน ในที่แบบใด เพราะอะไร

ในโพสท์นี้มาชวนกันแชร์ ภาพสถานที่เขียนงานที่เวิร์คๆ ของคุณ กันค่ะ

‪#‎เพจก็แค่ปริญญาเอก‬ ‪#‎JustaPhD‬
Credit photo: from http://headonyourchest.tumblr.com/