“ในค่ำคืน ที่ฟ้านั้นไม่มีดาวอยู่ตรงนี้ ฉันยังคงก้าวไป
ยังคงมีรักแท้ นัยว่าแสงนำไปในคืนที่หลงทาง
กับที่ๆความฝันนั้นพร้อมเป็นเพื่อนตาย
เส้นทางนี้ ฉันยังมีจุดหมาย
ตราบใดที่ปลายท้องฟ้า มีแสงรำไร จะไปจนถึงแสงสุดท้าย”
สวัสดีค่ะ แขกรับเชิญของเพจวันนี้เป็นนักศึกษาปริญญาเอกหนุ่มสุดคูลและเท่ห์มาก ชื่อ เร กำลังเรียน PhD in Computer Science ที่ Claude Bernard University Lyon 1, France
เร เป็นสมาชิกของเพจนี้ที่แอคทีฟมาก หมั่นคอมเมนต์ และให้กำลังใจเพื่อนๆในเพจอยู่เสมอ
เร คือเจ้าของจุดยืน “รักในสิ่งที่ทำ ทำในสิ่งที่รัก”
และวันนี้แอดมินขอเปิดตัว เร ด้วยเพลงประจำตัว ที่เรบอกว่าเปิดฟังบ่อยมากโดยเฉพาะช่วงเรียนปริญญาเอก คือ เพลงแสงสุดท้าย ของตูน bodyslam
วันนี้เราจะได้รู้จัก เร มากขึ้น และจะได้ทราบถึงลักษณะ รูปแบบและ ชีวิตการเรียนปริญญาเอกในฝรั่งเศส ด้วย
ช่วยแนะนำตัวค่ะ:
สวัสดีครับ ผม เรวัตร มากคงแก้ว (เร) ครับ ผมเรียนปริญญาเอก สาขา Computer Science ทำงานวิจัยด้าน Data Mining โดยใช้ Algorithm จำพวก Machine Learning ครับ ที่ Claude Bernard University Lyon 1, France เป็นหลักสูตร 3 ปี แต่ส่วนใหญ่ นักศึกษา มักใช้เวลาในการเรียนจนจบอยู่ที่ ราวๆ 4 ปี
แรงบันดาลใจในการเลือกเรียนต่อปริญญาเอกที่ฝรั่งเศส:
ผมชอบทวีปยุโรป ครับ มันสวยดี 555 และข้อต่อมาคือ ฝรั่งเศสมีระบบการเรียนที่แตกต่างจากอเมริกาและอังกฤษครับ เลยทำให้ผมสนใจ และอยากได้ประสบการณ์ที่แตกต่างเหล่านั้น
ในการเข้ามาศึกษาเราจะต้องผ่านการสอบสัมภาษณ์ ซึ่งการสอบสัมภาษณ์ที่นี่คือการสอบจริง แบบไม่มีข้อเขียน โดย แอดไวเซอร์จะทำการสอบสัมภาษณ์โดยตรงกับนักศึกษา ด้วยคำถามที่แอดไวเซอร์ได้เตรียมไว้ล่วงหน้า โดยคำถามจะเป็นคำถามที่เกี่ยวกับงานวิจัยที่เราเคยทำ โดยตอนสมัครเราจะต้องส่งงานวิจัยที่ได้เคยทำและตีพิมพ์ไปแล้วตอนปริญญาโทให้กับทางแอดไวเซอร์พิจารณา
ดังนั้นงานวิจัยตอนปริญญาโทจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เราต้องใช้เปเปอร์งานวิจัยที่ตีพิมพ์แล้วในการสมัครเรียนต่อ แอดไวเซอร์จะดูงานวิจัยที่เราเคยทำและตีพิมพ์แล้วเป็นหลัก ในการรับเข้าศึกษาต่อ หลักๆ จะดูว่า หัวข้อเปเปอร์ตรงกับเขาหรือไม่ จากนั้นก็คุณภาพของประเด็นที่เราทำและความเข้มข้นของการทำวิจัย ครับ หลังจากสอบสัมภาษณ์เสร็จ ทางแอดไวเซอร์จะทำการแจ้งผลเลยว่าผ่านหรือไม่ผ่าน
ครับ ผมจบ ปริญญาโท ที่คณะวิทยาศาสตร์ สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก ครับ (แผนวิจัย) ตอนเรียน โท ทำวิจัยแบบหนักๆหนึ่งปีเต็ม ลักษณะการทำก็เหมือนกับที่กำลังทำวิจัย ป.เอก อยู่ คือ กินนอนอยู่กับงานวิจัยเลยครับ และตีพิมพ์เพื่อขอจบ
มาต่อ ป.เอก ที่นี่ ก็ได้สานต่อหัวข้องานวิจัยเดิมครับ Data mining โดยใช้อัลกอริทึมจำพวก Machine learning แต่ถึงอย่างไรก็ยังต้องอ่านใหม่อีกมากเพราะอัลกอริทึมจำพวก Machine learning มันมีมากมายและหลากหลาย
เขียนธีสิสเป็นภาษาอะไร:
เป็นภาษาอังกฤษครับ (เนื่องจากเป็นสายวิทย์ฯ)
เตรียมตัวเรื่องภาษาอังกฤษ แค่ไหน? อย่างไร?
ผมเรียนภาษาอังกฤษใหม่ตอนเข้าเรียน ป.โท ครับ โดยเรียนที่ BSC พญาไท และเมื่อไม่ได้อยู่ในห้องเรียนก็เรียนต่อเอง โดยถ้าอยากดูทีวี ก็จะดูทีวีภาษาอังกฤษ ถ้าอยากอ่านหนังสือพิมพ์ก็อ่านภาษาอังกฤษ ถ้าอยากฟังวิทยุฟังเพลงก็ฟังภาษาอังกฤษ ครับ ส่วนภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับงานวิจัย อันนี้เวลาเราทำไปมากๆ อ่านไปมากๆ เราจะซึมซับไปเอง เพราะมันเป็นศัพท์เฉพาะสาขาวิชา ที่ค่อนข้างยาก ต้องอาศัยการอ่านเปเปอร์ และหนังสือเฉพาะสาขาวิชาที่เราเรียน ครับ
ต้องใช้ภาษาฝรั่งเศสในชีวิตประจำวัน:
ชีวิตประจำวัน ผมใช้ ภาษาอังกฤษครับ เพราะปกติ ผมทำวิจัยหนักแทบไม่ได้ไปไหน (ชีวิตประจำวันคือ งานวิจัย ครับ!!) ดังนั้นชีวิตจะอยู่แต่กับงานวิจัยเท่านั้น ซึ่งสาขาผม ใช้ภาษาอังกฤษ ในการทำวิจัย จึงไม่มีปัญหาอะไร หลังจากเสร็จงานวิจัยตามเป้าหมายของแอดไวเซอร์แล้วก็จะเริ่มเรียนภาษาฝรั่งเศสจริงจังต่อไป และเริ่มท่องเที่ยวในช่วงหลังของการศึกษาครับ ผมวางแผนไว้แบบนั้นครับ
ความท้าทายเวลาไปเรียนที่โน่นคืออะไร? ต้องปรับตัวเยอะไหม?
สำหรับผม ไม่ได้ ท้าทาย อะไรมากครับ เพราะผมทำวิจัยหนักตั้งแต่ ป.โท พอมาต่อเอกที่นี่ ก็ยังคงทำวิจัยหนักเหมือนเดิม ซึ่งการทำวิจัยในสาขาผม ลักษณะการทำงานหรือสภาพแวดล้อมในการทำวิจัย มันจะคล้ายคลึงกันทั่วโลกครับ ดังนั้น ผม จึงแทบไม่ได้ปรับตัวอะไรมากนักครับ
ภาพรวมของชีวิตการเรียนปริญญาเอกที่นี่:
ชีวิตการเรียนปริญญาเอกที่นี่ จะค่อนข้างมีความเครียดและกดดันสูง จากแอดไวเซอร์ คอมเม้นจากแอดไวเซอร์แต่ละครั้งค่อนข้างแรง (เคยน้ำตาซึมมาแล้ว) ดังนั้นจิตใจของนักศึกษาปริญญาเอกจึงเป็นสิ่งสำคัญ นักศึกษาต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งและแน่วแน่ (กัดไม่ปล่อย ตายเป็นตายต้องทำให้ได้! แต่ไม่เคยตายซักทีนะ 555)
หากเราไม่เห็นด้วยในคอมเม้นของแอดไวเซอร์อาจเสนอความเห็นได้บ้างแต่พองาม แต่ถ้าแอดไวเซอร์ยังคงยืนยัน เราก็ต้องทำตามอย่าขัดแย้งเด็ดขาด เพราะการเรียนปริญญาเอกนั้น แอดไวเซอร์ คือพระเจ้า!
ส่วนกุญแจสำคัญในการเรียน คือ ความรัก ความชอบ และความหลงใหล ในงานวิจัยที่เรากำลังทำอยู่นั่นเอง กุญแจอันนี้ช่วยให้ผมทำวิจัยได้ค่อนข้างเร็ว (โดยเวลาหนึ่งปีเศษๆ ผมทำได้ 3 เปเปอร์) เนื่องจากหากเรารัก เราหลงใหลในสิ่งใดแล้ว เราจะสามารถที่จะอยู่กับมันได้ทั้งวันทั้งคืน ซึ่งนี่คือสิ่งสำคัญในการทำวิจัยปริญญาเอก การทำวิจัยปริญญาเอกไม่จำเป็นต้องเป็นคนเก่ง แต่จำเป็นต้องเป็นคนที่รักในสิ่งที่เราทำอยู่ นั่นคือกุญแจ !!
ช่วยนิยามคำว่า Super Busy สำหรับนักศึกษาปริญญาเอก:
นิยามคำว่า Super Busy สำหรับผมคือ การได้ assignment จาก แอดไวเซอร์ และมี เดทไลน์ ในการส่งความคืบหน้าที่แน่ชัดกำหนดมาเรียบร้อย หลังจากได้มาเสร็จนั่นคือช่วงเวลาแห่งคำว่า Super Busy! เนื่องจากการสั่งงานแต่ละครั้งมักโดนจัดเต็มที่จาก แอดไวเซอร์ ซึ่งเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเราจะสามารถทำได้ตามกำหนดเวลาหรือไม่ เพราะเกือบทุกครั้งจะเป็นงานที่ยาก ที่เราต้องอ่านๆๆ ใหม่เยอะมากๆๆ ดังนั้น เมื่อได้คำสั่งมา เราต้องรีบอ่าน รีบค้นคว้า รีบศึกษา รีบทำให้เร็วที่สุด เพื่อกันความเสี่ยงที่จะทำได้ไม่ทันกำหนดไว้ก่อน มันจึงทำให้เราเครียด กังวล และยุ่งมากๆๆ เวลาแบบนี้ แทบจะไม่ได้ทำอะไรหรือไปไหนเลย ต้องรีบไปซื้อกับข้าวของกินมาตุนไว้ก่อน แล้วขังตัวเองทำงานจนกว่าจะเสร็จ บ่อยครั้งน้ำไม่ได้อาบฟันไม่ได้แปรงกันเลยทีเดียว นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ตลอด แทบไม่ได้ลุกไปไหน เหนื่อยไม่ไหวก็นอน ตื่นมาก็ทำงานต่อทันที ทำแบบนี้ซ้ำๆ จนกว่างานจะเสร็จ ถ้าทำเสร็จก่อนเวลา เวลาที่เหลือก็จะได้พักผ่อนบ้าง
เรียนรู้อะไรบ้างจากการทำงานวิจัย:
สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากการทำงานวิจัยคือ ความรักความหลงใหล จะทำให้เราผ่านมันไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก คล้ายกับการเล่นเกมส์ เกมส์บางเกมส์ยาก แต่เราชอบเล่นเกมส์ เราก็จะหาหนทางที่จะเล่นมันจนจบผ่านไปได้ มันคือแบบเดียวกันกับการทำวิจัย
“คิดนอกกรอบ” กรอบคือสิ่งที่คนสร้างขึ้น ดังนั้นคนก็สามารถเปลี่ยน แก้ไข หรือสร้างขึ้นใหม่ได้เสมอ จงอย่ายึดติดอะไรมากนัก งานวิจัยคือการสร้างสิ่งใหม่ ดังนั้นถ้าเรายึดติดกับแนวคิดเดิมๆ มันจะทำให้เราไม่สามารถค้นหาสิ่งใหม่ได้ดีนัก
แอดมินขอขอบคุณ เร มากที่มาแบ่งปันประสบการณ์ต่างๆตั้งแต่การสมัครเรียน รวมถึงข้อคิดดีๆระหว่างการเรียนมากมาย เหล่านี้น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครอีกหลายคนที่กำลังเลือกและตัดสินใจที่จะเรียนต่อปริญญาเอกได้ลงมือที่จะเดินตามฝันบ้าง…
แอดมินเชื่อว่า ตราบใดที่เรามีความฝัน ความเชื่อและศรัทธาในตัวเอง ไม่มีอะไรที่เราจะทำไม่ได้ ง่ายๆแบบนั้นเลยจริงๆ
#ขอบคุณเรสำหรับรูปบรรยากาศมหาวิทยาลัย #โต๊ะทำงาน #ห้องแลป #บรรยากาศเมืองLyon #โมเมนต์ต่างๆของการเรียนปริญญาเอก
#ขอบคุณสำหรับเพลงที่แนะนำ
https://www.youtube.com/watch?v=BqLhkRaze_k
#แอดมินเปิดฟังแล้วอินมาก #เป็นเพลงที่ช่างเหมาะกับชีวิตปริญญาเอก
#แอดมินเชื่อว่าแสงรำไรที่ปลายท้องฟ้าอยู่ไม่ไกลเกินที่เรจะเดินทางไปถึง #แอดมินขออวยพรให้เรโชคดี