เมื่อวันก่อน “ก็แค่ปริญญาเอก” มีโอกาสกระทบไหล่
ดร.แนน เลยรีบสอบถามถึงเรื่องเรียนดอกเตอร์ …
ในวันนั้น ดร.แนน ยุ่งมาก แต่อยากเล่ามาก…
เมื่อจัดสรรเวลาลงตัว จึงเขียนบทความเกี่ยวกับ ประสบการณ์การเรียน เพื่อมาแบ่งปันกันในเพจนี้ แอดมินขอขอบคุณ ดร.แนน มากๆค่ะ^^
ในบทความนี้ เราจะได้รู้จัก ดร.แนน ในมุมอ่อนแอ(แบบติสท์ๆ)ของเธอ เธอผ่านป.เอกมาโดยไม่ได้ใช้ไอคิวและความฉลาดที่เธอเป็นเจ้าของมาแต่เกิด..แต่กลับใช้ “ความกล้าหาญ” ที่จะเผชิญและยอมรับกับความจริง ซึ่งเป็นทักษะที่เธอชนะ จึงได้มาเป็น ดร.แนน ในวันนี้…
#ปริญญาเอกสำหรับคนติสท์(แตก)
ทุกคนคงเข้าใจกันดีว่า การเรียนปริญญาเอกไม่มีสูตรสำเร็จ แบบหนังสือฮาวทู และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจัดการภาวะความเครียด และอารมณ์ที่ฟุ้งซ่าน
มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ในต่างประเทศ จะจัดคอร์สอบรม ไล่เรียงในสิ่งที่เราต้องเตรียมใจ
และที่น่าเศร้าคือ สิ่งที่วิทยากรไล่เรียงว่า อะไรที่เรา “อาจจะ” สูญเสีย หรือสิ่งที่ “อาจจะ” ต้องแลกไป ไม่ว่าจะเป็น สุขภาพ เงินทอง เวลา และความสัมพันธ์กับคนที่เรารัก
…ต่างเป็นเรื่องที่ไม่ได้น้อยไปกว่าความเป็นจริงที่ผู้เรียนปริญญาเอกอย่างเรา ต้องเผชิญเลย…
ดังนั้น สำหรับเรา คนที่จะได้ปริญญาเอกมา โดยลำบากน้อยกว่าคนอื่น ไม่ใช่คนที่มีไอคิวสูง คนที่ฉลาดเลิศเลอ แต่ต้องเป็นคนที่มีภาวะเสถียรทางอารมณ์ และมีความต่อเนื่องในการทำงานมากที่สุด
…ซึ่งเราไม่ได้มีทั้งเสถียรภาพทางอารมณ์ และความต่อเนื่องใดใดเลยที่กล่าวมา…
เราจึงเป็นนักเรียนในระดับปริญญาเอกที่ยากลำบาก ได้โรคประจำตัวเพิ่มมาสองโรค คือ ติสท์แตก และดราม่า (จากการประเมินของเราเอง)
แต่ที่เราเรียนจบมาได้ เพราะเรายอมรับตัวเอง และใช้กลไกที่มหาวิทยาลัยเค้ามีให้ เช่น การคุยกับนักจิตวิทยา หรือแม้กระทั่งออพชั่น ในการลาพักการศึกษาได้หกเดือน
ดังนั้น การยอมรับในสภาวะอารมณ์ ไม่โทษตัวเองว่าล้มเหลว หรือโทษอาจารย์ คนรอบข้าง เป็นทางออกที่ดีที่สุด
และสิ่งที่สำคัญที่เป็นกิตติกรรมประกาศเล็กเล็ก ที่เราจบมาได้ ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณ เพื่อนๆที่ร่วมชะตากรรมเดียวกัน ที่เค้าสอนให้เรารู้ว่า ความต่อเนื่องมันไม่ได้มีนิยามตายตัว..เช่นว่า ต้องเขียนให้ได้อย่างน้อยห้าร้อยหรือพันคำต่อวัน
แต่เค้าทำให้เรามิกซ์แอนด์แมทช์ เช่น ถ้าวันนี้เป็นวันที่มีนัดหมายปาร์ตี้ตอนค่ำ เราก็จะจัดการซื้อกับข้าว ช้อปปิ้ง เล่นกีฬา ให้มันอยู่วันเดียวกันไปเลย
วันรุ่งขึ้นก็หมกตัวทำงาน เพราะคนติสท์แตกเนี่ย มันใช้เวลาในการสร้างบรรยากาศในการทำงานนานกว่าคนอื่น
“จะว่าไปงานปริญญาเอก มันก็เหมือนงานศิลปะจริงจริงนะ”
ขอบคุณทุกอย่างในโลก ที่จบมาได้
ดร. แนน
PhD In Politics and International Studies, University of Leeds, UK.
…และเมื่อเธอ “ชนะ” ใจตัวเองได้
…วันนี้ ดร.แนนกลับมาสร้างคุณประโยชน์มากมาย เป็นอาจารย์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับนิสิตนักศึกษาและสานต่อความฝันของใครอีกหลายคนให้เป็นจริง
…ในภาพคือ ดร.แนน กับเหล่าบรรดาลูกศิษย์ที่ต่างประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน หลายคนไปเป็น”นักการทูต”ตามฝัน ผลผลิตที่ดร.แนนภาคภูมิใจเหลือเกิน